past 1--- ทริป อาศรมศิลป์ (วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553)
เริ่มออกรถเดินทางไปกับท่านอ.ปู่จิ๋ว และท่านอาจารย์ทั้งหลายพร้อมเพื่อนๆภาคสถาปัตยกรรมภายใน จากพระจอมเกล้าลาดกระบังในตอนบ่าย จุดหมายปลายทางแรกของเรา ก็คือบ้านของคุณลุงคนหนึ่งในจ.สมุทรปราการ บ้านของลุงแก มีอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดำ ดังนั้นการปลูกสร้างบ้านจึงมีการปลูกสร้างใกล้บ่อเลี้ยงกุ้ง ครอบครัวของลุงแกนิยมปลูกสร้างบ้านบริเวณเดียวกัน สร้างบ้านใกล้ๆกันจนรวมเป็นครอบครัวใหญ่
บ้านของลุงมีการสร้างด้วยโครงสร้างไม้ไผ่ และมีการมุงด้วยตับจาก ยกพื้นสูงเพื่อหนีน้ำ มีทางเดินไท้เชื่อมต่อแต่ละครัวเรือนเข้าด้วยกัน มีการลดทอนรูปฟอร์มอาคาร ง่ายๆแต่ชัดเจนตรงตามประโยชน์ใช้สอย เช่น การกดชายคาลงมาให้อยู่ในระดับต่ำกว่าหัวคน เพื่อให้รู้ว่าคนสามารถลอดเข้าชายคาได้ถึงส่วนไหนและส่วนไหนมีไว้ใช้วางของ นอกจากนั้นลุงยังมีการประยุกต์นำไม้ไผ่มาใช้ในส่วนต่างๆของตัวบ้านเป็นทั้งเสา เป็นทั้งราวตากผ้า เป็นทั้งตัวค้ำรางน้ำ

หลังจากแวะเก็บข้อมูลบ้านลุงแกแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นทั้งสถานบันบัณฑิตศึกษา และออฟฟิตสถาปนิกที่ออกแบบรัฐสภาใหม่ที่ท่าเกียกกาย พร้อมทั้งยังเป็นทั้ง โรงเรียนอนุบาล-มัธยม (โรงเรียนรุ่งอรุณ) แนวความคิดในการออกแบบของที่นี่คือ การนำสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นมาผสมผสานเข้ากับสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พร้อมกับการกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติโดยรอบ โดยการนำแมกไม้และตัวอาคารเข้ามาเกาะเกี่ยวเข้าด้วยกัน
การออกแบบคำนึงถึงธรรมชาติให้คนใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ มีการนำวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ในการก่อสร้างเช่นไม้ ตับจาก ไม้ไผ่นำมาปรับใช้กับโครงสร้างสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวอาคารได้รับลมและอากาศภายในตัวอาคารไม่ร้อนมาก
past 2--- ทริป สระบุรี (วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม 2553)
ทริปนี้เดินทางออกจากลาดกระบังตั้งแต่เช้ามุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี โดยผ่านทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทริปนี้ได้มีโอกาสไปเยี่ยมบ้านของชาวไทยทรงดำ ซึ่งเป็นชนเผ่าไทยกลุ่มหนึ่งซึ่งมีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่บริเวณดินแดนสิบสองจุไทยในเวียดนามเหนือปัจจุบัน คนไทยมักเรียกพวกเขาว่า 'ลาวโซ่ง' หรือ 'ไทยโซ่ง' เนื่องจากอพยพผ่านมาทางประเทศลาว สัญลักษณ์การแต่งกายของไทยทรงดำ จะเห็นชัดเจนว่า ใช้เสื้อแบบเดียวกัน ส่วนใหญ่จะใช้สีขาวและสีดำ ใช้สีอื่นเพียงให้สวยงาม ผู้หญิงมักจะนุ่งผ้าซิ่นลายแตงโม และมวยผมเกล้าไว้บนศรีษะ ซึ่งจะมีลักษณะแตกต่างจากคนไทยหรือคนเชื้อสายอื่นๆ ทั่วไป บ้านที่เราไปดูเป็นบ้านทรงไทยโบราณที่ลุงเจ้าของบ้านได้ทำการเก็บรักษาไว้ บ้านเป็นบ้านไม้โบราณแต่เปลี่ยนมามุงหลังคาด้วยกระเบื้องลอนคู่ แต่ก็ยังรักษาความเป็นไทยโบราณเอาไว้ได้ บริเวณโดยรอบบ้านเป็นลานดินกวาดเรียบ รอบลานดินมีการปลูกสุมทุมพุ่มไม้ ที่มัีกจะเป็นไม้ดอกไม้ประดับหรือพืชผักสวนครัว
ด้านหลังบ้านมีลำคลองเล็กๆไหลผ่านตัวบ้าน หลังบ้านมีอาคารบ้านไทยแยกเป็นเรือนๆ มีการยื่นชานออกไปตรงท่่าน้ำ ตัวบ้านมีกาเชื่อมต่อกันด้วยแผ่นไม้ที่ทำเป็นสะพานทางเดิน
หลังจากชมบ้านแล้วนั้นเราจึงข้ามถนนมายังอีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านมาพบกับศูนย์การเรียนรู้ไทยทรงดำ ตัวอาคารเป็นบ้านเรือนไทยเช่นกัน ตัวบ้านปลูกไล่ไปตามระดับความสูงของเนินของดิน เพื่อเป็นศูนย์การเรีัยนรู้ให้กับเด็กในชุมชนละแวกนั้น ด้านหลังของตัวอาคารหันออกสู่ริมแม่น้ำป่าสัก ด้านหลังจัดเป็นลานการแสดงมีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา สามารถเดินจากตัวอาคารบนเนินลงมาสู่ลานนี้ได้ ด้วยทางเดินไล่ระดับลงมาจากเนินดิน ซึ่งทางเดินนี้จะเชื่อมต่อกับอาคารหลังย่อยที่อยู่ข้างๆกัน สร้างการเหลื่อมระดับกันของพื้นของตัวอาคารสร้างมุมมองที่แปลกใหม่ในการอยู่อาศัย
หลังจากเดินเยี่ยมชมได้ซักพักเราก็พักทางก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยกัน พร้อมกับชมการแสดงฟ้อนรำงามๆแบบชาวไทยทรงดำจากน้องๆกัน หลังจากกล่าวขอบคุณน้องๆและชาวบ้านกันแล้ว เราก็ทำการเคลื่อนพลกันไปต่อที่ตลาดโบราณเสาไห้ ซึีงเป็นชุมชนบ้านเรือนโบราณ ส่วนมากเป็นห้องแถวบ้านไม้ปลูกสร้างติิดๆกัน ยาวไปตลอดตัวตลาด
อาหารอร่อยของที่นี้คือเกี๋ยวกรอบ ละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือ นับว่าวันนี่เป็นอีกวันหนึี่งที่ได้กินอาหารอร่อยหลายๆอย่าง ได้เจอประสบการณ์ดีๆ ได้พบกับสิ่งสวยๆงามๆของสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นไทย ต้องขอขอบคุณ ท่านอาจารย์ทั้งหลายที่พาพวกหนูมาทัศนศึกษานอกสถานที่ ขอบคุณ คุณลุงและชาวบ้านทุกคนที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น